นี่คือ WordPress Stack ที่ดีทีสุดกับเทคโนโลยีปัจจุบัน

นี่คือ Stack ที่ดีทีสุดของ WordPress กับเทคโนโลยีปัจจุบัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Developer ยุค New Normal

Developer สร้างเครื่องได้เองไม่ต้องพึ่งพา SysAdmin

เราเชื่อไม่ว่า คำว่า “DevOps” มันเท่ ฟังดูดี แต่ที่ผ่านมา Developer ฝั่ง Agency หรือในบริษัทยังทำงานห่างไกล CI/CD

และสิ่งที่เหล่า SysAdmin ได้ยินจากปาก Develper คือ

ห่าาแม่งง กูทำทุกอย่าง 55++

คำว่า Develper หรืออาชีพนักพัฒนามันมีหลากหลาย Stack โพสนี้แอดชวนคุยเฉพาะฝั่ง Web development ล่ะกันครับ

Front-End & ​​​Backend คือคนเดียวกัน?

Manager & Project Manager คือคนเดียวกัน?

การจะทํา​​โปรเจกต์อะไรให้ประสบณ์ความสำเร็จ ส่วนประกอบนึ่ง คน ๆ นั้นต้องเคยร่วมทำทําโปรเจกต์มาก่อน สิ่งที่อยากกว่าหาคนเก่ง ๆ มาร่วมทีมคือ การทำให้คนเก่ง ๆ เหล่านั้นทำร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แหละแอดคิดว่านี่แหละคือว่า Project Manager หรือปัจจุบันอาจจะเรียก Team Lead Manager

เพราะหากไม่มีตำแหน่งนี้หรือคนดูแลส่วนนี้ ต่อให้จ้าง Agency หรือคนในองค์กรคุณเก่งขนาดไหน
ก็ไม่มีทางที่จะทำให้โปรเจกต์นำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงได้ (ไม่ใช่ทำให้เสร็จ ๆ ตาม KPI นะครับ)

แต่ใช่ว่าทุกองค์กรจำเป็นต้องมี Project Manager นะครับ เพราะ​ในแต่ละปีมี​ไม่กี่โปรเจกต์​​​

ที่นี้เราลองมาดูกันว่า Web Stack ที่ดี(ที่สุด มั้ง 555) สำหรับ WordPress คำว่า “ดีที่สุด” ของเราต่างกันนนน…

1. Stack แบบ Standalone Container

LLSMP (Linux + LiteSpeed + MariaDB + PHP)
Premium CDN -> SSL -> WAF -> LiteSpeed -> Redis -> MariaDB

หรือ LEMP (Linux + NGINX + MariaDB + PHP)

2. Stack แบบ Cluster Container

นี่คือ WordPress Stack ที่ดีทีสุดกับเทคโนโลยีปัจจุบัน

The FASTEST WordPress Stack

LLSMP cluster-container
(Linux + LiteSpeed + MariaDB + PHP)
Premium CDN -> SSL -> WAF -> LiteSpeed -> Redis -> MariaDB

อ่านมาดูเหมือนยากใช่ไหมครับ

ใช่ ยาก 55​++​

แต่เชื่อไหมว่ามันมี PaaS ที่ทำ built-in ฟีเจอร์มาให้แล้ว เป็น template ให้เราคลิกติดตั้งได้เลย PaaS ที่ว่านี้ช่วยให้คุณสามารถ scaling ได้ตามแบบ vertical sca​​ling ความต้องการ

ถ้าเป็นซูโลชันเว็บติดตั้งแบบ Standalone Container เซอร์วิสนี้ Container capacity จะอยู่ที่แรม 2 GB และซีพียู 6.4 GHz โดย Stack การใช้ resources แบ่งดังนี้

  • 50% สำหรับ application server
    (LiteSpeed Web Server หรือ NGINX)
  • 10% สำหรับ Redis cache server
  • 40% สำหรับ MariaDB database server

ข้อดีคือ ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น (Pay for the Usage)
และ container หากใช้แรกไม่เกิน 2 GB (16 cloudlets) ใช้ฟรีไม่ต้องจ่าย สำหรับการ attache ไอพีเข้า container (Public IP) จ่ายราคาหลักร้อยบาท / เดือน

Pay for the Usage จ่ายเท่าที่ใช้งานจริง โดยคิดค่าบริการเป็นหน่วยย่อยๆ เรียกแต่ละหน่วยว่า Cloudlet
ซึ่งทรัพยากรณ์ใน 1 หน่วยจะมี Memory 128MB และ CPU 400MHz ครับ สามารถ Auto Scale เพิ่มได้แบบไม่จำกัด รองรับการใช้งานโหลดหนัก ๆ ได้สบาย ๆ
อีกทั้ง billing ค่าใช้จ่ายยังออกรายงานให้ในแต่ละเซอร์วิส ก็คล้าย ๆ กับ GCP และ AWS ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้โดยตั้งค่าเพดานทราฟฟิกได้

อ่อๆๆๆ หรืออยากจะติดตั้ง VPS containers ก็ได้ครับ
Virtual Private Servers (Elastic VPS) รองรับ OS-based อาทิเช่น CentOS, Ubuntu และ Debian

พร้อมระบบ Marketplace ที่มีการอัพเดท Application ให้ใหม่สดอยู่ตลอด เช่น WordPress, K8s, Mariadb Cluster และ MontoDB Cluster เป็นต้นครับ.

มาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Developer ยุค New Normal

สนใจรายละเอียด PaaS container ที่ pre-configured มาแบบ certified container  (มากกว่า 50 certified container runtime หนึ่งในนั้นก็คือ  LiteSpeed container) ติดตามได้ที่เพจ SUSEMAN โลดดด

Leave a Reply

Scroll to top