ทำไมต้องใช้ Cloud? ให้เลิกตั้งคำถามนี้ถ้าอยากใช้บริการ Cloud แต่ให้ถามว่า…
ความต้องการของธุรกิจคุณทำไมต้องใช้ Cloud?
โพสต์นี้ว่าด้วยเรื่องโมเดลบริการคลาวด์ (Cloud Computing Services Models) ในรูปแบบของ PaaS, IaaS, และ SaaS ครัช
SaaS – (Software as a Service)

แพลตฟอร์มสำหรับ End users เช่น บริการที่หลายคนใช้งานอยู่ทุกวัน Gmail, Slack, Office 365และ business apps ต่าง ๆ สำหรับ digital businesses เช่น Email marketing, Help Desk, Marketing Automation, CRM, Analytics, Invoice Application, Project Management ฯลฯ
ข้อดี:
- zero management ปล่อยหน้าที่ให้ vendor จัดการ
- ซื้อเท่าที่ใช้ subscription
- ไม่ต้องติดตั้ง software และจ่ายค่า hardware maintenance
- ไม่ต้องเสียเวลามากังวลเรื่อง upgrade
- พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องมาเสียเวลาพัฒนาโปรแกรม deploy และคอนฟิก
- ขยายธุรกิจได้เร็ว (Scalability) เมื่อธุรกิจมี growth คุณสามารถ scale ได้ทันที เช่น ขยายสาขา.
ข้อเสียล่ะมีไหม:
- no privacy of sensitive หรือปัญหาด้านข้อมูลและความปลอดภัยแน่นอนบริการคลาวด์ มันไม่มีความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอยู่แล้วครับหากข้อมูลเราค่อยข้าง sensitive เช่น เงินเดือน ก็โฮสต์ภายในก็ได้เรื่องนี้คุยกันให้จบตั้งแต่วันแรก เพราะเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากเวลาเกิดปัญหาขึ้น เช่น ข้อมูลหลุด ไม่มีการเข้ารหัสเป็นต้น
- Performance เรื่องประสิทธิบางช่วงเวลาก็อาจจะมีช้าบ้างเนื่องจากมีการใช้งานเยอะเนื่องจากไม่ใช่มีแค่เราใช้บริการ
- Internet requirement จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงบริการ
PaaS – (Platform as a Service)
แพลตฟอร์มสำหรับ Software developer DevOps Platform-as-a-Service (PaaS) ก็เช่น Jelastic, Heroku, OpenShift ครับ คีย์หลักคือให้บริการ resources แบบ pay-as-you-go.
IaaS – (Infrastructure as a Service)
สำหรับ Network architect, IT administrator ครับเป็น infrastructure solution พวก Private Cloud หรือ Public Cloud ผู้เล่นในตลาดนี้ก็ เช่น AWS, GCP, Stackscale, VMware, Azure เป็นต้นส่วนลูกค้าเค้าก็พวกแบรน์ดใหญ่ๆ อย่าง Apparently, Netflix และ Salesforce.
สรุป: หากวัตถุประสงค์ของธุรกิจเราคือ การสร้างผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่และให้บริการ เมื่อผลิตภัณฑ์เสร็จสิ้นจะเรียกว่าผลิตภัณฑ์นี้ว่า SaaS ที่ลูกค้าพร้อมใช้งานทันทีแต่หากวัตถุประสงค์ของธุรกิจเราคือ การเริ่มต้นเว็บไซต์คุณก็อาจจะสร้าง Instance (VM) เป็นโฮสต์แอปพลิเคชัน WordPress เท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ.
ใครอ่านมาถึงตรงนี้จะสังเกตเห็นว่า IaaS, PaaS และ SaaS ไม่ได้ยัดติดกับการดำเนินธุรกิจ มันขึ้นอยู่กับว่าเราทราบถึงความต้องการของธุรกิจของเราหรือไม่ และเลือกได้อย่างเหมาะสมได้อย่างไร องค์ประกอบการประสบความสำเร็จในธุรกิจขึ้นอยู่กับว่าองค์กรเลือกใช้บริการอย่างไร ตามหลังคู่แข่งหรือแซงหน้าไปแล้ว (ทั้งกลยุทธ์และในด้านบริการ)

source: https://www.aalpha.net/blog/the-difference-between-paas-iaas-and-saas/