## เรื่องยากไม่ใช่การเฟ้นหาคนเก่ง
แต่เป็นการรับมือเมื่อคนเก่ง
เริ่มเรียกร้องในสิ่งที่บริษัทให้ไม่ได้ ##
วันหนึ่งระหว่างประชุมทีมงานของบริษัทออปส์แวร์
พนักงานหลายคนไม่พอใจกับหัวหน้าและซีอีโอ
และพวกแก็งพูดหยาบคาย
หัวโต๊ะบอก…
เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญดับแรก ๆ
แต่หารู้ไม่
คำพูดหยาบ ๆ นั้นจะแพร่ไปทั่วทีม ทั่วองค์กร
ในทางตรงกันข้าม
“ในธุรกิจเทคโนโลยี
พนักงานบางคนไม่มีปัญหากับคำหยาบแต่บางคนมี
เย็ดเข้ สัต Deply สำเร็จแล้ว 555++++😄
ขึ้น Production โลดดด
เรื่องนี้สอนทีมให้รู้ว่า…
ถ้าเรายังพูดคำหยาบกันต่อไป
พนักงานบางคนก็จะลาออก
แต่ๆๆๆ ซีอีโอออปส์แวร์
รู้ดีว่ายุคนั้น Intel และ Microsoft นี่สุดโต่งการพูดหยาบ
กันทั้งนั้น คำหยาบไม่ได้บั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานเลย
องค์กรที่จะประสบความสำเร็จได้
จะมีวัฒนธรรมองค์กรที่รักษาคนเก่ง ๆ ไว้
ซึ่งซีอีโอออปส์แวร์อนุญาตให้มีการใช้คำหยาบต่อไป
ในวันต่อมาซีอีโอออปส์แวร์แถลงกล่าวในการประชุม
“ผมรู้ว่าผมเป็นคนพูดหยาบอันดับหนึ่งของบริษัท”
เรามีสองทางเลือก
1. ห้ามการพูดคำหยาบ
2 ยอมรับมันกับการพูดคำหยาบ
แต่ผมรู้ดีว่าเราไม่อาจบังคับใครได้
การพูดคำหยาบคือการคัดคน
ด้วยเหตุนี้เราจึงอนุญาตให้พูดคำหยาบได้
แต่ไม่ได้ให้พวกคุณพูดคำหยาบในการข่มขู่
หรือทำสิ่งไม่ดีอื่น ๆ
พวกคุณเป็นคนกำหนดวัฒนธรรมขององค์กร
วัฒนาธรรมขององค์กรพนักงาน 10คน
ไม่เหมือนกันเหมือนตอนพนักงาน 1,000คน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
“เรื่องยากไม่ใช่การเฟ้นหาคนเก่ง
แต่เป็นการรับมือเมื่อคนเก่ง
เริ่มเรียกร้องในสิ่งที่บริษัทให้ไม่ได้”
#การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
เป็นหนังสืออีกเล่มที่แอดมินอ่านแล้วรู้สึกว่า
มันตรงประเด็นมาก ๆ ครับ
แม้จะดูโหดร้ายแบบสุดติ่งคร้าบบ 😆
Cr.: The Hard Thing About Hard Things