ปูทางสู่ระบบนิเวศที่แทบไร้คู่ต่อกร AWS ประกาศเปิดบริการใหม่ เปิดบริการใหม่ AWS Edge location Network ในประเทศไทย
ก่อนจะไปเข้าเรื่องนี้ แอดอยากขอเกริ่นพูดถึงความแตกต่างระหว่างบริการAWS Cloud computing และ AWS Edge computing
Cloud computing ทาง AWS จะ provide infrastructure บนศูนย์ข้อมูลของตนเองตามภูมิกาคต่าง ๆ
ส่วน Edge computing เป็นแนวคิดการออกแบบระบบที่ใช้หน่วยประมวลผล (Edge Server) ที่อยู่ใกล้กับต้นทางข้อมูลมากที่สุดเพื่อลดเวลาในการเข้าถึงข้อมูลแล้วต่อ Edge gateway เข้ากับ Services provide infrastructure (AWS) ครับ
และนั้นก็อาจจะบอกได้ว่าเว็บแอปพลิเคชันหรือบริการใดที่ใช้ Edge Network จะทำให้ latency ต่ำ เพิ่ม experience สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น
บริการ AWS Edge location Network ในประเทศไทยมีอะไรบ้าง?

- บริการได้แก่ Cloudfront ที่เป็น CDNLambda@Edge
- บริการประมวลผลที่ CDN สำหรับเว็บขนาดเล็ก
- Route 53 ที่เป็นบริการ DNS (Domain Name Server)
- AWS Global Accelerator บริการเร่งสปีดความเร็วสำหรับโปรโตคอลต่าง ๆ
- AWS Shield ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS
- และ AWS WAF ไฟร์วอลล์สำหรับเว็บแอปพลิเคชั่นครับ
เรื่องค่าใช้จ่ายคิดยังไง? คิดเป็น Pay-as-you-go

ความได้เปรียบของการใช้บริการ AWS Edge location คือเราไม่เสียค่าส่งข้อมูลจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ใน AWS infrastructure ไปยัง CloudFront Edge location (เช่น Amazon S3, Amazon EC2 หรือ Elastic Load Balancing) แต่เราเสียเฉพาะค่าส่งข้อมูลจาก Edge location ออกสู่อินเทอร์เน็ตเท่านั้น
สุดท้าย: เรื่องควักเงิน Pay-as-you-go ก็เอาที่เราสะดวกจะจ่ายผ่านตัวแทน AWS local Billing หรือจ่ายตรง ๆ รูดปื๊ด รูดปื๊ด ด้วยบัตรเครดิตก็แล้วแต่เลย (ได้ point ไหม ฮ่าๆๆๆ)
ผู้ที่สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่:
https://aws.amazon.com/cloudfront/features/#Amazon_CloudFront_Infrastructure