Binance Decentralized

เมื่อ Binance ปฏิวัติวงการเงินโลก!

Binance เป็นแพลตฟอร์มตลาดกลางซื้อขายเงินดิจิทัล (Digital Cryptocurrency Exchange) แพลตฟอร์มเทรดแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) เต็มรูปแบบพร้อมบริการด้านการเงิน (DeFi)

*อ่านให้จบ! ไม่ต้องรีบร้อนสมัครเปิดบัญชี Binance นะครับ ส่วนลิงก์สมัครอยู่ด้านล่างสุด
คลิ๊กลงทะเบียนฟรี! เริ่มต้นเทรดได้เลย

Binance จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการเงินโลก!

ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2017 โดยจดทะเบียนบริษัทในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีรายได้จากการคิดค่าธรรมเนียมซื้อขาย 0.1% รวมทั้งมีการออกเหรียญใช้บนแพลตฟอร์มตนเองชื่อ Binance Coin (BNB) ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ด้านการเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริการฝากสินทรัพย์ (Binance Earn) และการลงทุนฝากสิทรัพย์เพื่อรับดอกเบี้ยสินคทรัพย์ (คล้าย ๆ กับตั่วแลกเงินที่เป็นการฝากเงินในรูปแบบของการกู้เงิน) เป็นต้น

Binance ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มบริการแลกเปลี่ยนซื้อขาย เงินดิจิทัล (Cryptocurrency Exchage) เพียงเท่านั้น ไม่ใช่แค่เอาเงินบาทไปแลกเป็นดอลลาร์ หรือสกุลเงินอื่น ๆ (เหมือนกับ SuperRich นะครับ) ในโลกของ Digital Assets มันคือการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและแลกเปลี่ยนเหรียญโดยการจับคู่สกุลเงินดิจิทัล เช่น คู่เทรนระหว่าง ETH/BTC (Bitcoin, Ethereum) หรือหากเป็นการเทรดบนตลาด Binance ก็เช่น DOT/BNB หรือหากในประเทศไทยบนแพลตฟอร์ม Satang Pro ก็เช่น BTC/THB (โดยคุณจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อฝากเงินเข้ากระเป๋าของตนเองบนแพลตฟอร์ม Satang Pro ก่อนแล้วถึงไปซื้อเหรียญ และเริ่มเทรดได้นะครับ

โดยตลาดซื้อขายเงินคริปโตหรือแพลตฟอร์ม Digital Assets Exchange ยังแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ได้ดังนี้

ประเภทของ Digital Assets Exchanges

  1. Cryptocurrency Spot Exchanges

    บริการซื้อขายสินทรัพย์หรือเงินดิจิทัลจริง ในราคา ณ ปัจจุบัน ซึ่งสามารถทำการซื้อขายได้แบบง่ายสุด ๆ อยากได้เงินดิจิทัลหรือโทเคนไหนก็กดซื้อได้เลย (รูปแบบการซื้อจะพูดในลำดับถัดไป)
  2. Cryptocurrency Derivatives Exchanges

    เป็นบริการการซื้อขายอนุพันธ์ของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยแพลตฟอร์ม Exchange ประเภทนี้ก็เช่น Binance เขาจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถทำการ Short (หรือการยืมเงินดิจิทัลจากคนอื่นมาขาย แล้วค่อยซื้อคืนในอนาคต) เมื่อราคาเงินดิจิทัลในอนาคตต่ำลงแล้วค่อยซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า เราก็เก็บส่วนต่างมาเป็นกำไร ซึ่งจุดประสงค์ของการขาย Short นั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาครับ และยังเป็นช่องทางทำกำไรในตลาดขาลงได้อีกด้วยครับ

    อีกอย่างตลาด Derivatives Exchange ยังให้เราสามารถทำการเทรดแบบมาร์จินได้ (Margin Trading) หมายความว่า เราสามารถซื้อ-ขายได้มากกว่าจำเงินที่เรามีอยู่จริง

    *มือใหม่ไม่แนะนำให้ใช้งาน Exchange ประเภทนี้! เนื่องจากว่ามีขั้นตอนที่ซับซ้อนและความเสี่ยงสูงกว่าการซื้อขายแบบปรกติครับ และผู้ที่จะเล่นตลาดนี้ต้องทำ Margin Quiz ด้วยว่าเข้าใจอย่างท่องแท้แล้ว
  3. Cryptocurrency Decentralized Exchanges (DEX)

บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล (Swap) หรือการแลกเงินจากเงินสกุลนึ่งไปเป็นอีกสกุลนึ่งเป็นต้น โดยที่แพลตฟอร์มเหล่านี้จะไม่มี Wallet หรือกระเป๋าเงินบนแพลตฟอร์มตนเอง ทำให้แพลตฟอร์มรูปแบบนี้มีความปลอดภัยเพราะเราเป็นคนถือกระเป๋าเงินเอง ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มแบบ Centralized Exchanges ที่เราต้องเก็บสกุลเงินดิจิทัลไว้กับเจ้าของแพลตฟอร์ม (ความเสี่ยงก็คือธุรกิจปิดตัว, เซิร์ฟเวอร์ล่ม เป็นต้น)

ตัวอย่าง Decentralized Exchange ในประเทศไทยก็เช่น KULAP เป็นต้น ส่วน Centralized Exchanges ก็เช่น Satang Pro ครับ

Digital Asset

วิธีหาเงินบนแพลตฟอร์ม Binance Earn เงินต้นอยู่ครบ (Yield 6%)

Binance Earn เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์ม Binance ครับ อย่างที่บอกไปว่า Binance นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วยังมีบริการผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนอีกด้วย วิธีการก็เพียงแค่เรานำสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมาฝากผ่าน Binance Earn เพื่อรอรับผลตอบแทนได้อย่างง่าย ๆ ครับ

Binance Earn

สำหรับผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจคิดแล้วว่า Binance มันก็เป็นเหมือนธนาคารที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งบริการ Binance Earn มันเหมาะกับคนรุ่นใหม่คนทำงาน หรือนักลงทุน เน้นถือครองยาว ๆ (ย้ำ!! ไม่ใช่นักเทรด) ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง แล้วรอรับผลตอลแทนสม่ำเสมอ ที่สำคัญเงินต้นอยู่ครบ

*การลงทุนใน Binance Earn แนะนำให้ลงทุนในเหรียญ Stablecoin เล่น USDT, BUSD, DOT ในตลาด FIAT market ครับ

*การลงทุนในเหรียญ (Crytocurrency) มีความเสี่ยงด้านราคาที่ผันผวนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน, สภาพคล่อง, และแพลตฟอร์มปิดหนี้ ^^

เริ่มลงทุนกับ Binance ทำไง?

เริ่มต้นโดยการโอนเงินเข้า Binance ครับ แต่เนื่องจากแพลตฟอร์ม Binance ยังไม่รองรับการโอนเงินบาท (THB) ผ่านบัญชีธนาคารไทยโดยตรงนะครับ แต่เราสามารถฝากเงินเข้ากระเป๋า Wallet ของ Binance ได้ 3 วิธี (แล้วถึงไปซื้อเหรียญ/เทรด/ฝาก ได้)

  1. Credit Card

    ทำการเพิ่มบัตร Credit / Visa เพื่อใช้ในการซื้อเหรียญ สำหรับบัตร Mastercard ตอนนี้ไม่เสียค่าธรรมเนียม (ตอนซื้อให้เลือกสกุลเงินดิจิทัล USDT นะครับ เพราะหน่วยเงินเหรียญ USDT มีค่าเทียบเท่า 1 USDT = 30.x บาท (เปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยน)
  2. Transfer

    เป็นการโอนเงินจากแพลตฟอร์ม Exchange อื่น ๆ เข้ามายังแพลตฟอร์ม Binance เช่น โอนเหรียญออกจาก Bitkub, Satang Pro ฯลฯ มาเข้ากระเป๋า Binance ของเราบน Binance (ต้องโอนบนเครือข่ายเดียวกันด้วยนะครับ แต่ค่าธรรมเนียมบน Ethereum Main Network (ERC20) แพงโครตๆ 55+ เช่น เหรียญ USDT, ETH ฯลฯ)
  3. P2P Trading

    อันนี้ก็คือการซื้อขายเหรียญระหว่างผู้ใช้บน Binance ด้วยกัน ซึ่งก็จะมีคนไทยนำเหรียญ USDT ไปขายแลกเงินบาท เราสามารถสั่งซื้อผ่านระบบได้เลย โอนเสร็จเงินเข้าบัญชีผู้ขาย เราผู้ซื้อก็จะได้เหรียญ USDT ทันทีครับ (อันนี้กรณีเราเอาเงิน BTH แลก USDT)

สำหรับในเรื่องของการฝากเงินเข้า Binance ก็คราว ๆ ประมาณนั้นครับ ถัดไปเราจะพูดถึงการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ บน Binance Earn DeFi Crypto หรือที่เรียกกันว่า DeFi Yield Farming กันครับ

อ่านเพิ่มเติม Bitcoin Cryptocurrency ไม่ใช่ Token

1. Savings (ฝากออมทรัพย์) ดอกทบต้น 6%

บริการฝากออมทรัพย์โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมาฝากกับ Binance ครับ โดยจะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำการฝากเฉลี่ย 0.13-10% (แนะนำฝากเป็นเหรียญ Stablecoin เช่น USDT เป็นต้น) และฝากประจำ (Fixed Rate) ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยครับ

ฝากออมทรัพย์

Flexible Savings Flexible to Transfer and Safe to Earn
Locked Savings Flexible deposits, higher profits

ฝากประจำ (Fixed Rate) ผลตอบแทนเฉลี่ยดอกทบต้น 6%

ฝากประจำ

Fixed Savings Easy to Deposit & Earn

อีกอย่าง Binance ยังมีรับแบบการลงทุนการฝาก Token + จำกัดเวลา ให้บริการด้วยที่หน้าเมนู Activities อันนี้ก็คล้าย ปล่อยกู้เงิน เช่น 14วัน, 21วัน, 90วัน ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ย 3-20%

Activities
Limited supply, higher demand

2. Launchpool (ฝากสินทรัพย์รับดอกเบี้ย)

เป็นบริการรับฝากเหรียญ เช่น BUSD, BNB, DOT ฯลฯ ตามเวลาที่กำหนด เมื่อครบกำหนดแคเปญเราก็จะได้ LTI เป็นค่าตอบแทน ส่วนเหรีญที่ฝากไปก็จะถูกคืนกลับเข้า Wallet เต็มจำนวนเช่นเดิม

แนะนำเป็นเหรียญ BUSD เพราะมีมูลค่าคงที่ครับ ที่ 1 USD (เช่นเดียวกันกับเหรียญ USDT)

Launchpool Deposit coins and earn cryptos

3. Staking (ฝากสินทรัพย์เพิ่มสภาพคล่องตลาดในระบบ)

เป็นรูปแบบบริการการฝากสินทรัพย์เหรียญใด ๆ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในระบบระหว่างช่วยเวลานึง เช่น 14-90 วัน โดยจะจ่ายผลตอบแทนเป็นเหรียที่เราฝาก (ดอกทบต้น) โดยจะโอนเข้า Wallet เราอัตโนมัติครับ

คำว่าเหรียญใด ๆ ก็คือรวมถึงเหรียญที่ไม่ใช่ Stablecoin ราคา Token จึงผันผวนตามตลาดวิธีทำงานรูปแบบนี้มีความเสี่ยง! นะครับ

Staking Easy Stake Easy Earn

4. DeFi Staking (ฝากสินทรัพย์ลงทุนในโปรเจ๊กต์)

ก็คล้าย ๆ กับการ Stacking ครับ แต่เป็นการลงทุนใน DeFi Project เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เช่น Compound เป็นต้น โดยจ่ายผลตอบแทนที่สูงกว่าแบบปกติ เราสามารถฝาก/ถอด เมื่อไหร่ก็ได้

การฝากสินทรัพย์ลงทุนใน DeFi Project สามารถทำได้ผ่าน Project อื่น ๆ เช่น Pancakeswap ก็ได้เช่นกัน

Staking Easy Stake Easy Earn

5. Liquid Swap (ฝากสินทรัพย์พร้อมกัน 2 Token)

เป็นบริการฝากเหรียญพร้อมกันและจ่ายผลตอบแทนจากส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมของการทำธุรกรรมระหว่างคู่ Token นั้น ๆ เช่น คู่ BNB/BUSD, AUD/BUSD ฯลฯ

รูปแบบนี้จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2-12%

Liquid Swap Become a liquidity provider & earn double

6. Vault (การ Stake แต่จำกัดเหรียญ)

เป็นบริการคล้ายกับการ Stake แต่ระบบจำกัดเหรียญที่ใช้บนแพลตฟอร์มตนเองเท่านั้น นั้นก็คือเหรียญ BNB (Binance Coin) และเราจะได้ผลตอบแทนเป็นเหรียญ BTCST, LIT โอนเข้า Wallet กระเป๋าเงินเราอัตโนมัติ

Litentry (LIT) เป็นชื่อ Token หรือเหรียญ LIT บน บน Binance Launchpool

สุดท้าย คำเตือน!
1. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
2. การลงทุนใน Token หรือเหรียญดิจิทับมิใช่การฝากเงินบาท และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ ดังนั้น ผู้ลงทุนควรลงทุนในเหรียญดิจิทัลควรดูวัตถุประสงค์การลงทุนของตน
3. ผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในแพลตฟอร์มดังกล่าวได้
4. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและผลตอบแทนสามารถปรับขึัน / ลดลง ตามสภาพตลาด

สมัครใช้ Binance ฟรี!

Scroll to top