อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ คอนเซ็ปบล็อกนี้คือมัดรวมทุกอย่างที่คน IT ควรรู้
คำเตือน: ข้อความทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะครับ และ No advice on investment!
โพสต์นี้ผมขอใช้ชื่อซีรีส์ว่า…
“คลั่งรัก” กับ DeFi protocol ไขประตูหัวใจ IT สู่โลกการเงินสมัยใหม่
ถ้าใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ต้องกดแชร์แล้วแหละ 55++
ที่แอดใช้คำว่า “คลั่งรัก” เพราะว่าคำนี้มักใช้อธิบายอาการของคนที่มีความรักในบางสิ่งบางอย่างแล้วอินสุดๆ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าตอนนี้ระบบการเงินบน blockchain มันมี CeFi กับ DeFi โดยผู้ใช้ (user) สามารถสร้างกระเป๋าเงิน (wallet) กี่กระเป๋าก็ได้ใน Chain แต่ละ Chain (Ethereum, BSC, Klaytn, ฯลฯ) ถ้าหากสร้างกระเป๋าบน CeFi ก็เช่น กระเป๋าเงินที่อยู่บน Exchange เช่น Satang Pro, Binance เป็นต้น
ประเด็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับ DeFi (Decentralized finance) คือ
มันเป็นคอนเซ็ปโลกการเงินสมัยใหม่ที่ไร้คนกลาง ที่ผสานกับการออกแบบกลไกการควบคุมสินทรัพย์และการชำระเงิน
แล้ว CeFi กับ DeFi ต่างกันยังไง?
การเงินแบบรวมศูนย์ CeFi (Centralized finance) ต้องอาศัยความไว้วางใจในกฎหมาย และสถาบันการเงิน ในขณะที่ DeFi (Decentralized finance) อาศัยความไว้วางใจผ่านโค้ดโปรแกรมสัญญาอัจริยะ (smart contract)
และส่วนตัวผมมีความเชื่อว่า “DeFi” สิ่งนี้แหละที่ปูทางให้กับธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการให้บริการที่ให้ผลตอบแทนเต็มรูปแบบแก่ผู้ใช้แพลตฟอร์มของพวกเขาครับ และยังคงนำเสนอและตอบสนองความต้องการด้านความเสี่ยงที่หลากหลาย ไว้ภายใต้การควบคุม ให้กับผู้ใช้บริการได้ครับ
จากอดีต… คุณถือกระเป๋าเงินแบบไหนครับ?
- กระเป๋าเงินแบบมีซิปรูด
- กระเป๋าเงินแบบ(ไม่มี)ซิปรูด
- กระเป๋าเงินดิจิทัส (wallet app)
- และกระเป๋าเงิน ที่ไม่มีเงิน!! (hardware wallet / wallet addresses)
- เปิดกระเป๋าด้วย PIN key หรือ Private Key (Seed word)
ดังนั้นหากใครมีเจ้า Private Key นี้ก็จะสามารถโอนเงินออกจากกระเป๋าได้ทันที
ส่วน Seed word ในโลก Cryptocurrency มันคือ กลุ่มคำที่เอาไว้สร้างเป็น Private Key อีกทีครับ
DeFi Decentralized Rebalancing
โลกการเงินแบบไร้คนกลาง และการปรับสมดุลพอร์ตหรือสินทรัพย์ให้อัตโนมัติ
เราอาจจะพอทราบผลิตภัณฑ์บนโลก DeFi มาบ้างแล้ว เช่น กลุ่มผลิตภัฑณ์ DeFi yield products
(Staking, Yield Farming) หรือกลยุทธ์ optimize เพื่อสร้างผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ (เราน่าจะพอคุ้นเคย ผ่านหู้ผ่านตา หรือติดดอยกันมาแล้ว 555+)
ปัจจุบัน DeFi ก้าวเข้าสู่โลกการเงินการลงทุนที่มีความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบ 55++ จาก Staking ฝากเหรียญสินทรัพย์ดิจิทัล (Token) รับดอกเบี้ย หรือ Framing (การเป็นผู้เพิ่มสภาพคร่อง) การรับผลตอบแทนจากการเป็นผู้เพิ่มสภาพคร่อง สู่กลไกจัดสรรผลตอบแทนความเสี่ยงสูง ที่ adjust ความเสี่ยง แต่คุณสามารถเลือกระดับความเสี่ยงได้ (Know Your Risk)
Automated Rebalancing / Rebalancing Farm
ก่อนอื่นไปดูว่าการลงทุนในรูปแบบดั่งเดิม ทำการปรับสมดุลพอร์ตหรือสินทรัพย์ให้อัตโนมัติอย่างไร?
หรือที่เราเรียกกันว่าการทำ Auto Rebalance ครับ
Auto Rebalance แบบดั่งเดิมจะเป็นการทำ Rebalance ที่ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนแนะนำให้คุณทำอย่างสม่ำเสมอในการลงทุนระยะยาวเป็นต้น (Robo Advisor) และจุดที่ค่อนข้างยุ่งยากคือ ต้องมีความรู้ ต้องมีวินัยในการติดตามความเคลื่อนไหว หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ
แต่ในโลกของ DeFi การปรับสมดุลพอร์ตหรือสินทรัพย์ให้อัตโนมัติเราเรียกกันว่า decentralized rebalancing เป็นกลยุทธ์การทำ Farming ให้เกิดผลผลิตสูงสุด
แพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ ทำงานด้วยโปรโตคอลและผ่าน smart contract (DeFi rebalancing protocol) มันเป็น marketing keywords หรือกลยุทธ์การจัดสรรผลตอบแทนที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้คุณรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด
โดยที่เจ้าของแพลตฟอร์มจะเพิ่มฟังก์ชันด้วยโปรโตคอลการให้กู้ยืมต่างๆ หรือฟังก์ชัน Auto Trade ที่ช่วยส่งคำสั่งซื้อขายเหรียญได้แบบอัตโนมัติบน DeFi ทั้งที่อยู่บน Ethereum, BSC, Klaytn ฯลฯ ด้วยทริกเกอร์ปรับสมดุลโดยอัตโนมัติ (Rebalancing Farm) ทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพดีกว่า โดยการทำงานทั้งหมดจะกระทำแบบ auto ด้วยอัลกอริธึมผ่าน smart contract (คือเขียนโปรแกรมใน Blockchain) ตัวอย่างแพลตฟอร์มนี้ก็ เช่น Idle Finance และ Definix ที่จัดการโดย Enigma
Enigma เป็น Startup ของสถาบัน Massachusetts Institute of Technology ปัจจุบันคือบริษัท Enigma Securities Ltd. ด้าน Blockchain ผู้สร้างแพตฟอร์ม พัฒนา smart contarct ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสำหรับ DApps.
อธิบายคำศัพท์เพิ่มเติม:
Staking คือการฝาก และเหรียญจะถูกล็อคไว้ในระบบ (contract) แล้วได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนในแต่ละปี
Yield Farming ซับซ้อนกว่าการ Staking เป็นการฝากเหรียญเป็นคู่ลงไปไว้ใน Liquidity Pool ของแพลตฟอร์มนั้นๆ (Pool กองเงินที่คนลงทุนลง เรียกว่า Liquidity Provider)
Rebalancing Farming คือระบบการลงทุนที่มีการปรับสมดุลพอร์ตหรือสินทรัพย์ให้อัตโนมัติ
แต่ตอนนี้คำถามคือ… (ไปหาคำตอบกันเองนะคร้าบบ ฮ่าๆ)
Traditional finance กับ DeFi โลกสองใบจะประนีประนอมกันได้อย่างไร?
- เราจะเพิ่ม diversity และปริมาณของสินทรัพย์ในโลกของ DeFi ได้อย่างไร?
- เราจะเอาทรัพย์สินดั้งเดิม (traditional asset) ในระบบเศรษฐกิจ เช่น ฉโนดที่ดิน, คอนโด ฯลฯ
ไปสู่ DeFi เพื่อรับประโยชน์ได้อย่างไร?
The future อนาคตถัดจากนี้…
โลกการเงินก้าวสู่การใช้กลไกการทำงานอัตโนมัติ ที่ยังคงปฏิวัติตามข้อจำกัด (compliant) และกฏระเบียบที่มีอยู่ดีครับ (DEX ที่ ก.ล.ต รับรองแล้ว) แล้วมัน Decentralized ยังไงหว่า 555++ จบ!
Blockchain มีจุดเด่นที่ความถูกต้องของข้อมูล แต่มันมีข้อเสียเรื่องความเป็นส่วนตัว
และ “ความเป็นส่วน” ตัวคือ สิ่งที่ขวางกั้นทีใหญ่ที่สุดสำหรับการที่ Smart Contract
ดังนั้น Smart Contract และ DApps จำเป็นต้องปิดข้อเสียดังกล่าวให้ได้ ถึงจะถูกยอมรับจากทั้งโลก
คำปฏิเสธ
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในบทความ ผู้เขียนเผยแพร่โดยสุจริต และเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การดำเนินการใดๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการกับข้อมูลที่พบในบทความถือเป็นความเสี่ยงของตนเอง นะครับ
เนื้อหานี้ได้อ่าน ความคิดเห็น และข้อความที่แสดงในที่นี้เป็นของผู้เขียน โปรดรับทราบว่าการลงทุนของคุณอยู่ในความเสี่ยงของคุณเองและการสูญเสียใดๆ ที่คุณอาจต้องรับผิดชอบนั้นเป็นความรับผิดชอบของคุณ ครับ